Promote website

Promote Rebate Forex

เชิญ เข้าร่วม ForexRebateProgram หรือ สมัครเป็นตัวแทนได้ และสามารถเปิดบัญชีForex ผ่าน id ของท่านเมื่อสมัครเป็นสมาชิก ก็จะได้รับ REbate โดยตรงครับ

Translate

English French German Spain Italian Dutch Russian Portuguese Japanese Korean Arabic Chinese Simplified

ประกาศ

ประกาศ:
-เมื่อท่านสมัครเปิดบัญชีและโอนเงินเข้าแล้ว ให้ขอโบนัสจากโบรกเกอร์ และสามารถฝากเงินลงทุนพร้อมโบนัสเข้าลงทุนได้เลย
-รับลงทุนขั้นต่ำ 10$ ระยะเวลาลงทุนอย่างน้อย 30 วัน ถ้าถอนออกมาก่อนจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 10%

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

ความหมายของคำสั่งและคำศัพท์ที่พบในการเทรดForex

Leverage คืออะไร เราจะเลือกแบบไหนดี จึงจะเหมาะสมกับเรา
Wednesday, 08 September, 2010 1:25 AM
Leverage คืออะไร
ความหมายง่ายๆของ เลเวอเรจ (Leverage) คือ จำนวนเปอร์เซนที่ได้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อทำการเปิดออเดอร์เทรด ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณซื้อ 100 หุ้นในตลาดหุ้นโดยที่ราคาหุ้นละ 10 $ ต่อหุ้น คุณต้องใช้เงิน 1000$ เพื่อเปิดการเทรด บางโบรกเกอร์ให้คุณยืมเงินเพื่อเทรดสูงถึง 50-80% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมด แทนที่คุณจะใช้เงิน 1000$ แต่คุณกลับใช้แค่ 500 $ เท่านั้น เพื่อทำการเทรด สิ่งนี้แหระที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถซื้อหุ้นได้มาก โดยใช้เงินเท่าเดิม อย่างไรก็ตามทางโบรกเกอร์ก็จะชาร์จกำไรจากการยืมของคุณ หลักการณ์นี้ก็น้ำมาใช้กับตลาดForex

แต่โบรกเกอร์ฟอเร็กให้คุณยืมถึง 99 % ของทั้งหมดเพื่อให้คุณเปิดการเทรดและคุณก็ใช้มันเพียงแค่ 1 % เท่านั้น ถ้าคุณต้องการเทรด 1000$ คุณใช้มันเพียงแค่ 10 $ นี่แหระครับ คือความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์ และตลาดฟอเร็กไม่ชาร์จกำไรจากการยืมของคุณด้วย

เอาล่ะครับ หลายๆคนอาจจะงง เรามาดูกันเลยครับ ว่า Leverage ที่โบรกเกอร์ฟอเร็กได้กำหนดไว้มีเท่าไรบ้าง
โดยส่วนมากโบรกเกอร์จะกำหนด Leverage ตั้งแต่
Leverage
1:1
1:2
1:10
1:100
1:200
1:400
1:500
1:1000 เฉพาะบางโบรกเกอร์ เท่านั้นเช่นโบรก Exness และ Instaforex
ผมจะยกตัวอย่างการเทรดที่ Leverage 1:100
สมมติว่าผมต้องการซื้อ EUR ที่ 100 units ผมจะใช้เงินของผม 1 units เท่านั้นเพื่อซื้อ EUR 100 units ถ้าซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.2750 เมื่อราคาขึ้นไปถึง 1.2800 ผลต่างของราคาเท่ากับ 50 pips ผมพอใจแล้ว ก็ทำการขาย ผมได้กำไร 50 pips

มาดูตัวอย่างการคำนวณครับ จากหัวข้อ เรื่อง Pips และ Lot ใครยังไม่ได้อ่านกลับไปอ่านนะครับ
(pip value / ราคาที่คุณปิด ) คูณด้วย Unit ที่คุณทำการ Buy Sell
=(0.001/1.2800)*100=0.39 $
หรือผมอาจจะคิดแบบนี้ สมมติว่า ผมต้องการซื้อ EUR ที่อัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน EUR/USD =1.2750 เป็นจำนวน 100 $ ผมจึงใช้เงินของผม 1 $ บัญชีของผมเป็น Leverage 1:100 ดังนั้นผมต้องยืมโบรกเกอร์อีก 99$ เมื่อผมซื้อแล้ว ผมจะได้ EUR มา 78.43 Euro และเมื่อราคาขึ้นไป 1.2800 ผมได้ กำไร 50 pips ผมตัดสินใจขายยูโร ที่ผมซื้อมา จะได้ 78.43*1.2800=100.39 $ นี่คือกำไรของผม
100.39 $ แต่ผมได้ยืมโบรกเกอร์มา 99 $ ทางโบรกเกอร์จะหักเงินอัตโนมัติ แล้วที่เหลือก็คือ 1.39 $ สรุปคือ ถ้าได้กำไรมา 0.39 $ จากการเทรดเงิน 1 $ เมื่อราคาเคลื่อนที่ 50 pips

แต่ปัจจุบันนี้ ทางโบรกเกอร์กำหนดให้เราแล้ว ว่า ถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pip ถ้าเราซื้อ 1 $ เราจะได้ 0.01 $ ดังนั้นจากตัวอย่างข้างบน ได้มา 50 pips ผมจะได้เงิน 0.50$

Use Margin คือ จำนวนเงินที่เราใช้เทรดในแต่ละครั้ง

ความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage และ Use Margin
ประเภทของบัญชีในการเทรด Forex จะมีอยู่หลายประเภท แต่ที่หลักๆ ที่ใช้กันคือมีสามประเภทคือ
1.Standard Account
2.Mini Account
3.Micro Account
ผมจะเทียบความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage และ Use Margin ของ บัญชี Standard นะครับ

Leverage ความต้องการเทรด Use Margin
1:100 1 lot(100,000$) 1000$
1:200 1 lot(100,000$) 500$
1:400 1 lot(100,000$) 250$

การเทรด 1 Lot คือ การใช้ Use Margin 1000 ดอลล่า เพื่อที่จะเทรดฟอเร็กซ์ โดยใช้ Leverage 1:100 หมายความว่า คุณต้องมีเงินในบัญชีเทรดฟอเร็กซ์มากกว่า 1000 $ คุณจึงจะเทรดที่ 1 Lot ได้ และการเปลี่ยนแปลงต่อจุด ถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pips จะเท่ากับ 10 $ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมีเงินแค่ 1000 $ แล้วคุณปล่อยให้ลบ 100 pips บัญชีของคุณก็จะโดน Margin Call ทันที ถ้าคุณไม่มี Margin โบรกเกอร์ก็จะตัดทันที
Leverage 1 :200 สิ่งที่แตกต่างของ Leverage 1:200 คือ จำนวนเงินที่ใช้เทรด Use Margin จะน้อยกว่า 1:100 แต่ การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pip เท่ากับ 10 $ เหมือนกัน
ไม่ว่าคุณจะเล่นที่ Leverage เท่าไร การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pips ก็ยังคงเท่าเดิม
ซึ่งตอนนี้บางโบรกเกอร์ สร้าง Leverage สูงๆ ขึ้นมาเพื่อให้พวก Scalper ที่เล่นสั้นๆ ลงเงินเยอะๆ อย่างเช่น Loeverage 1:1000 ถ้าคุณมีเงิน 1000 $ ในบัญชี คุณสามารถเทรด 5 Lot ได้ ซึ่งก็หมายความว่า คุณต้องการให้ได้กำไร 50 $ ต่อ pips แต่ถ้าราคาไม่เป็นดังที่คุณต้องการ ราคาลบไป 20 pips
พอร์ตของคุณก็จะเกลี้ยงทันที

หัวข้อต่อไป :|> การเลือกโบรกเกอร์เทรดฟอเร็กซ์
Pips และ Lots คืออะไร
Tuesday, 07 September, 2010 6:52 PM
ทำความรู้จักกับ Pips และ Lots กันก่อน
คุณอาจจะได้เคยได้ยินคำว่า pips และคำว่า Lots ผมจะขยายความว่ามันคืออะไรและคำนวณกันอย่างไร
คุณควรใช้เวลากับเรื่องนี้มากพอสมควร มันเป็นความรู้ที่เทรดเดอร์ทุกคนจำเป็นต้องรู้ อย่าพึ่งนึกถึงเรื่องการเทรดจนกว่าคุณจะเข้าใจคำว่า pips และสามารถคำนวนกำไรและขาดทุนได้

คำว่า Pip คืออะไร
โดยทั่วไป การเพิ่มขึ้นของค่าเงินนั้นจะบอกเป็น Pip ถ้า EUR/USD เคลื่อนที่จาก 1.2250 ไปที่ 1.2251 นี่คือเคลื่อนที่ไป 1 pip PIP คือ จุดทศนิยมตัวสุดท้ายซึ่งถูกอ้างอิงจากราคาปัจจุบันของตลาด กำหนดให้มีสี่ตำแหน่งที่ใช้กัน ในบางโบรกเกอร์อาจจะมีถึงห้าตำแหน่ง PIP เป็นสิ่งที่บอกให้คุณรู้ว่า คุณได้กำไรหรือขาดทุน
โดยแต่ละค่าเงินก็มีค่างของตัวมันเอง มันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องคำนวนค่าของ pip สำหรับค่าเงินนั้นๆ ค่าเงินที่ USD ขึ้นก่อน สามารถคำนวณได้ดังนี้
เช่น USD/JPY อยู่ที่ ราคา 119.80(โดยส่วนมากจะมีทศนิยมสองตำแหน่ง ) ในกรณีนี้ 1 pip เท่ากับ 0.01
ดังนั้น
USD/JPY
119.80
0.01 หารด้วย อัตราแลกเปลี่ยน = pip value
0.01/119.80 = 0.0000834
ดูเหมือนกับกว่ามีตัวเลขที่เยอะมากแต่เราจะอธิบายตัวเลขนี้ในภายหลัง
USD/CHF
1.5250
0.0001 หารด้วยอัตราแลกเปลี่ยน = pip value
0.0001/1.5250 = 0,0000655

USD/CAD
1.4890
0.0001 หารด้วยอัตราแลกเปลี่ยน = pip value
0.0001/1.48990 = 0.00006715

และในกรณีที่ US ดอลล่าร์ ไมได้อยู่เป็นตัวแรก และเราต้องการที่จะได้รับเป็นค่าของดอลล่า เราทำได้ดังนี้
EUR/USD
1.2200
0.0001 หารด้วยอัตราแลกเปลี่ยน = pips value
ดังนั้น
0.0001/1.2200 = EUR 0.00008196
แต่พวกเราต้องการทำให้เป็นหน่วย US ดอลล่าร์ เราจึงต้องคำนวนใหม่เป็น
EUR คูณ อัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้นจะเท่ากับ
0.00008196 * 1.2200= 0.00009999
เราปัดทศนิยมให้เป็นสี่ตำแหน่งจะได้เป็น 0.0001

GBP/USD
1.7975
0.0001 หารด้วยอัตราแลกเปลี่ยน = pip value
ดังนั้น
0.0001/1.7975 =GBP 0.0000556
แต่เราต้องการทำให้เป็นหน่วยของ US ดอลล่าร์ ซึ่งคำนวนได้ดังนี้
GBP*อัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้นจะได้เท่ากับ
0.0000556*1.7975=0.0000998
เราปัดเป็นทศนิยมสี่ตำแหน่งเป็น 0.0001

สำหรับค่าเหล่านี้ คุณไม่ต้องคำนวนอะไร เราอยากให้ทราบถึงที่มา ว่ามันมาอย่างไร ทั้งหมดนี้ โบรกเกอร์จัดการให้คุณแบบอัตโนมัติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่คุณควรจะรู้ว่ามันทำงานอย่างไร

Lots คืออะไร
ในตลาด Forex เทรดเป็นจำนวน Lots , ขนาดมาตรฐานสำหรับ Lot คือ 100000 units และมี Mini lot size ที่ 10000 units เมื่อคุณรู้แล้วว่า ค่าเงินนั้นวัดค่าเป็น pips ซึ่งเป็นการเพิ่มทีละน้อยของค่าเงินนั้น ซึ่งข้อดีของการเพิ่มทีละน้อย มันทำให้คุณสามารถเทรดได้จำนวนมากๆในแต่ละค่าเงินที่คุณเลือก และสามารถคำนวณกำไร ขาดทุนได้

สมมติว่าเราใช้ 100000 units (Standard size) เราจะคำนวนใหม่ให้เห็นค่าของ pip value
USD/JPY ที่อัตราแลกเปลี่ยน 119.80
(.01 / 119.80) x 100,000 = $8.34 per pip)

USD/CHF at an exchange rate of 1.4555
(.0001 / 1.4555) x 100,000 = $6.87 per pip)

EUR/USD at an exchange rate of 1.1930
(.0001 / 1.1930) X 100,000 = 8.38 x 1.1930 = $9.99734 rounded up will be $10 per pip)

GBP/USD at an exchange rate or 1.8040
(.0001 / 1.8040) x 100,000 = 5.54 x 1.8040 = 9.99416 rounded up will be $10 per pip.)

ซึ่งโบรกเกอร์ของคุณอาจจะมีข้อตกลงที่แตกต่างกันในการคำนวน pip value สัมพันธ์กับ Lot size แต่ไม่ว่าสิ่งไหนก็ตามหนทางที่พวกเขาทำ พวกเขาจะต้องแจ้งให้คุณทราบ pips value ของการเทรดของคุณที่เวลานั้นๆ เป็นเท่าไร ขณะที่ตลาดมีการเคลื่อนตัว pip value จะขึ้นอยู่กับค่าเงินอะไร ที่คุณเทรดอยู่ ณ ปัจจุบัน

คุณสามารถคำนวนกำไรและขาดทุนได้อย่างไร
ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าจะสามารถคำนวน Pip value ได้อย่างไร ต่อไปนี้มาดูวิธีการคำนวนกำไรและขาดทุนของคุณ

Buy USD และ Sell Swiss francs
ที่อัตราที่แสดงราคาคือ 1.4525/1.4530 เพราะว่าคุณได้ Buy US คุณจะได้ราคา 1.4530
ไม่กี่นาทีผ่านไป ราคาเคลื่อนที่ไปที่ 1.4550 และคุณตัดสินใจที่จะปิดออเดอร์ของคุณ
ราคาที่แสดงใหม่ของ USD/CHF คือ 1.4550/1.4555
ผลต่างระหว่าง 1.4530 ถึง 1.4550 คือ 20 pips
ใช้สูตรก่อนหน้านี้ในการคำนวนจะได้
(.0001/1.4550) x 100,000 = $6.87 per pip x 20 pips = $137.40

จำไว้ว่า เมื่อคุณจะเข้าเทรด หรือออกจากการเทรด ให้คุณดูเสปรดในราคา bid/offer(ask)

หัวข้อต่อไป :|> Leverage คืออะไร มาทำความรู้จักกับ Leverage
Type of order
Tuesday, 07 September, 2010 3:01 PM
Type Of Order
ประเภทของคำสั่งรายการเทรด
โดยทั่วไปแล้วโบรกเกอร์จะมีคำสั่งรายการพวกนี้จัดเตรียมไว้ให้คุณอยู่แล้ว แต่มีบางโบรกเกอร์ที่ออเดอร์แปลกประหลาดต่างจากที่อื่น

พื้นฐานของออเดอร์ที่โบรกเกอร์ทั้งหมดต้องมี
1. Market Order
มาเก็ตออเดอร์คือออเดอร์ที่ buy หรือ Sell ในราคาของตลาดปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น EUR/USD ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.2800ถ้าคุณต้องการ Buy ที่ราคานี้ คุณก็คลิก Buy แล้วคุณก็จะได้ราคานี้ทันที
2.Limit order
ลิมิตออเดอร์คือ ออเดอร์ที่ถูกแทนที่ด้วย Buy หรือ Sell ในราคาล่วงหน้า (ตั้งสวนนั่นเอง ) ตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนี้ราคาของ EUR/USD อยู่ที่ 1.2800 คุณต้องการตั้งสวน Buy ที่ 1.2780 คุณต้องใช้ คำสั่ง Buy Limit เมื่อราคาลงไปถึง 1.2780 ไปชนออเดอร์ของคุณ คุณก็จะได้ราคานี้ทันที
2.Stop order
สต๊อบออเดอร์ คือออเดอร์ที่ถูกแทนที่ด้วย Buy หรือ Sell ในราคาล่วงหน้าเช่นกัน แต่ไม่ได้ตั้งสวนนะ แต่เป็นการตั้งตามแนวโน้มมากกว่า ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.2800 แล้วคุณต้องการ Buy เมื่อราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ 1.2820 คุณก็อาจจะไปตั้ง Buy Stop ที่ราคา 1.2820 ถ้าราคาผ่าน 1.2820 ได้ ราคาก็จะไปชน Limit order ของคุณ
3. Stop -Loss
จุดหยุดการขาดทุน
เมื่อคุณได้ทำการเข้าออเดอร์ไว้แล้ว แล้วไม่มีเวลาอยู่หน้าจอ ต้องออกไปข้างนอก Stop loss สามารถช่วยคุณได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณ Buy EUR/USD ที่ 1.2820 คุณต้องการที่จะหยุดขาดทุนที่ 20 pips คุณก็สามารถตั้ง Stop loss ได้ที่ราคา 1.2800 เมื่อราคาลงมาถึง 1.2800 ออเดอร์ของคุณก็จะหยุดทันที สต๊อบลอสสามารถช่วยให้หยุดการขาดทุนของคุณได้ ช่วยให้เงินของคุณไม่หมดพอร์ต
4. Target
ทาเก็ตคือ ราคาเป้าหมาย หรือกำไรที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการกำไรจาก Order Buy ที่ราคา 1.2820 โดยหวังกำไรจากรายการนี้ 20 pips คุณก็ตั้ง Target ไว้ที่ 1.2840
การตั้ง Stop loss และ Target ช่วยให้คุณมีวินัยในการเทรดมากขึ้น

ประเภทออเดอร์แบบอื่นๆ
1.GTC(Good'til canceled)
คำสั่งแบบ GTC เป็นคำสั่งที่ยังคงแอคทิฟจนกระทั่งคุณได้ตัดสินใจยกเลิกมัน โบรกเกอร์ของคุณจะไม่ยกเลิกให้คุณ ดังนั้น นี่เป็นความรับผิดชอบของคุณที่คุณได้กำหนดชนิดไว้แล้ว
2.GFD(Good for the day)
คำสั่งแบบ GFD จะยังคงแอคทิฟจนกระทั่งตลาดปิด วันต่อวันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ของคุณว่ากำหนด ราคาของวันนั้นๆ จะสิ้นสุดกี่โมง เพื่อเริ่มวันใหม่ ต้องตรวจสอบกับทางโบรกเกอร์ของคุณด้วย
3.OCO (Order cancels other)
คำสั่งแบบ OCO จะรวมระหว่าง Limit และ Stop โดยตั้งไว้ที่ด้านบนและด้านล่างของราคาปัจจุบัน

คำสั่งเหล่านี้จะมีเฉพาะบางโบรกเกอร์เท่านั่น เพราะฉะนั้นคุณควรจะรู้คำสั่งพื้นฐานเอาไว้
คุณจะทำเงินด้วยการเทรด Forex ได้อย่างไร
Monday, 06 September, 2010 10:41 PM
คุณจะทำเงินด้วยการเทรด Forex ได้อย่างไร
ในตลาดฟอเร็กซ์ คุณจะซื้อหรือขายสกุลเงินนั้น การเทรดในตลาดฟอเร็กซ์นั้นเป็นเรื่องที่ง่าย เครื่องมือของการเทรดคล้ายๆกันซึ่งหาได้จากตลาดอื่นๆ เช่นตลาดหุ้น ดังนั้นเมื่อคุณมีประสบการณ์ในการเทรด คุณน่าจะมีความสามารถที่จะทำกำไรได้เร็วขึ้น
วัตถุประสงค์ของการเทรดฟอเร็กซ์คือ การแลกเปลี่ยนสกุลหนึ่งเพื่อให้ได้อีกสกุลเงินหนึ่งและคาดหวังว่าราคาจะเปลี่ยนแปลง นั้นหมายความว่า สกุลเงินที่คุณได้ซื้อจะต้องมีค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินหนึ่งที่คุณขาย
ตัวอย่างของการทำเงินจากการซื้อสกุลเงินยูโร (euros)
Trading ‘s Action EUR USD
คุณซื้อเงินยูโรจำนวน 10000 euros ในอัตราแลกเปลี่ยน 1.18 +10,000 -11,800
สองสัปดาห์ต่อมา คุณได้ไปแลกยูโรกลับมาเป็น US ดอลล่าร์ ในอัตราแลกเปลี่ยน 1.25 -10,000 +12,500
คุณทำกำไรได้ 700$ ภายในสองสัปดาห์ 0 +700
EUR 10,000 * 1.18= US $11,800 และ EUR10,000 * 1.25= US $12,500
อตราแลกเปลี่ยนอัตราส่วนง่ายของสกุลเงินหนึ่งเทียบเงินสกุลเงินอื่นๆ ตัวอย่างเช่น อัตราแลกเปลี่ยนของ USD/CHF บ่งชี้ว่า กี่ดอลล่าร์สหรัฐ จึงจะซื้อ 1 Swiss francs ได้ หรือ กี่ ฟรังส์สวิส จึงจะซื้อ หนึ่งดอลล่าร์ ได้
คุณจะอ่านราคา Forex ได้อย่างไร
สกุลเงินแสดงราคาเป็นคู่เสมอ เช่น GBP/USD หรือ USD/JPY เหตผลที่พวกเราแสดงราคาเป็นคู่ๆ ก็เพราะว่าในทุกๆรายการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศคุณต้องซื้อสุกลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลหนึ่งๆ ในเวลาเดียวกัน นี่คือตัวอย่างของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศของ ค่าเงินปอนด์(GBP) เทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ(USD)
GBP/USD=1.7500
สกุลเงินตัวแรกที่อยู่ด้านซ้ายมือของเครื่องหมาย สแลซ (Slash /) จะเรียกว่า Base Currency สกุลเงินหลัก ในตัวอย่างนี้ก็คือค่าเงินปอนด์ (GBP) ขณะที่อีกหนึ่งตัวที่อยู่ด้านขวาของสแลซ ถูกเรียกว่า Counter หรือ quot currency ในตัวอย่างนี้ก็คือ ค่าเงินดอลล่าสหรัฐ(USD)
เมื่อคุณทำการซื้อ อัตราแลกเปลี่ยนจะบอกคุณว่า คุณจะต้องจ่ายกี่หน่วยของ quote currency เพื่อที่จะซื้อ Base currency ต่อหนึ่งหน่วย จากตัวอย่างด้านบน คุณต้องจ่าย 1.7500 ดอลล่าร์เพื่อที่จะซื้อ 1 ปอนด์
เมื่อคุณทำการขาย อัตราแลกเปลี่ยนก็จะบอกคุณว่า คุณจะจ่ายกี่หน่วยของ Quote currency เพื่อทำการขาย Base currency ต่อหนึ่งหน่วย จากตัวอย่างด้านบน คุณจะได้รับ 1.7500 U.S ดอลล่าร์ เมื่อคุณคุณขาย 1 ปอนด์
ค่าเงินหลัก ตัวหน้า (Base currency) คือ (basis) ส่วนสำคัญ สำหรับการซื้อ หรือ ขาย ถ้าคุณซื้อ EUR/USD ความหมายง่ายๆก็คือคุณกำลังซื้อ base curency และกำลังขาย quote currency ในเวลาเดียวกัน
คุณจะซื้อคู่เงินที่คุณเชื่อว่า Base Currency จะมีอัตราราคาเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ quote currency และคุณจะเซลคู่ที่คุณคิดว่า base currency นั้นมีอัตราของราคาลดลงเมื่อเทียบกับ quote currency
Long/Shot
ก่อนอื่น คุณต้องรู้ว่า คุณต้องการซื้อ(Buy) หรือ ว่าขาย(Sell)
ถ้าคุณต้องการที่จะซื้อ คุณต้องการให้ Base Currency มีค่ามากขึ้นแล้วคุณจะขายมันที่ราคาสูงกว่า แบบนี้เรียกว่า “going long “ หรือเรียกว่า Long position และจำไว้ว่า Long =Buy
ถ้าคุณต้องการที่จะขาย (Sell) คุณต้องการให้ราคา Base Currency ตกลง แล้วคุณจะซื้อ Buy มันกลับที่ราคาต่ำกว่าเดิม แบบนี้เรียกว่า Going Short หรือ เรียกว่า Short position และจำไว้ว่า Short=Sell

Bid/Ask Spread
ในตารางแสดงราคาฟอเร็กจะประกอบด้วย Bid และ Ask ราคา Bid จะต่ำกว่าราคา Ask เสมอ
Bid คือราคาที่ Dealer กำลังจะซื้อ Base Currency ในการแลกเปลี่ยนสำหรับ Quote Currency แบบนี้หมายความว่า Bid ก็คือราคาที่คุณจะขาย (sell)
Ask คือราคาที่ Dealer กำลังจะขาย Base Currency ในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้ Quote Currency แบบนี้หมายความว่า Ask คือราคาที่คุณจะซื้อ (Buy)
ส่วนต่างระหว่าง ราคา Bid และ Ask ส่วนใหญ่จะรู้จักกันดี หรือที่เรียกว่า Spread
มาดูตัวอย่างของตารางแสดงราคา


Spead bid-ask

นี่คือ ตารางแสดงราคาของคู่เงิน GBP/USD ราคาบิดคือ 1.7445 และราคา ask คือ 1.7449 ถ้าคุณต้องการที่จะ Sell GBP คุณก็กด Sell แล้วคุณก็เซลเงินปอนด์ที่ราคา 1.7445 ถ้าคุณต้องการที่จะ Buy GBP คุณ Click Buy ล้วคุณก็ได้บายเงินปอนด์ในราคา 1.7449 จากตัวอย่างนี้ คุณจะต้องวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะ บาย หรือจะ เซล คู่เงินนั้นๆ ถ้าคุณรู้สึกเบื่อกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานให้คุณผ่านขึ้นตอนนี้ไปได้เลย
EUR/USD
ในตัวอย่างนี้ EURO เป็น Base Currency และเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการ Buy/Sell
ถ้าคุณเชื่อว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะอ่อนค่ามากๆ ซึ่งเป็นข่าวร้ายสำหรับ US ดอลล่าร์ คุณก็ดำเนินการ Buy EUR/USD ได้ ในระหว่างคุณซื้อยูโรไปแล้วในความคาดหมายของคุณ Euro จะต้องเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ US ดอลล่า

แต่ถ้าคุณเชื่อว่าเศรษฐกิจของสหรัฐดีมากๆ และยูโรอ่อนค่ามากๆเมื่อเทียบกับ ดอลล่าสหรัฐ จะดำเนินการ Sell EUR/USD ได้เลย ในระหว่างที่คุณ Sell ตามการคาดการณ์ว่า พวกเราจะต้องร่วง เมื่อเทียบกับ US ดอลล่าร์

USD/JPY
ในตัวอย่างนี้ ค่าเงินดอลล่าสหรัฐ (USD) เป็น Base Currency และ ดังนั้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการ Buy/Sell
ถ้าคุณเชื่อว่า นักลงทุนญี่ปุ่่นกำลังดึงเงินออกจากสถาบันการเงินของสหรัฐ และเปลี่ยนจาก US ดอลล่าร์เป็นค่าเงิน เยน ของพวกเราแล้ว นี่คือ สิ่งที่เลวร้ายของ US ดอลล่า คุณดำเนินการ Sell USD/JPY ได้ทันที โดยการกระทำการ Sell US ดอลล่าร์ของคุณโดยการคาดการณ์ที่ว่า พวกเราจะต้องร่วงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนของญี่ปุ่น
GBP/USD
ในตัวอย่างนี้ GBP เป็น Base Currency แล้วมีความสำคัญต่อการ Buy/Sell
ถ้าคุณคิดว่าเศรษฐกิจของอังกฤษโตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐ คุณก็ดำเนินการเปิดออเดอร์ Buy ได้ การ Buy ปอนด์ โดยการคาดการณ์ที่ว่า พวกเขาต้องมีค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าสหรัฐ

USD/CHF
ในตัวอย่างนี้ USD เป็น Base Currency ดังนั้นจึงมีความสำคัญในการ Buy/Sell
ถ้าคุณเชื่อว่า ฟรังค์สวิส มีค่ามากเกินไป ให้คุณเปิดออเดอร์ Buy ได้ โดยการกระทำการ Buy Us ดอลล่าร์ของคุณหวังว่าพวกเราจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อเทียบกับฟรังค์ สวิส
แต่ถ้าคุณเชื่อว่า ตลาดบ้าน สหรัฐ เกิดภาวะฟองสบู่แตกซึ่งเป็นสิงเลวร้ายสำหรับการเจริญเติบโตของเศรญฐกิจสหรัฐ ทำให้ค่าเงินดอลล่าอ่อนตัว
คุณสามารถดำเนินการเปิดออเดอร์ Sell USD/CHF ได้เลย และคาดการณ์ว่าพวกเราจะต้องร่วงเมื่อเทียบกับค่าเงิน Swiss franc
Demo Account (บัญชีเงินปลอม)
คุณสามารถเปิดบัญชีเงินปลอมได้ฟรีได้ทุกๆโบรกเกอร์ บัญชีนี้มีการบรรจุของบัญชีจริงอยู่ด้วย ทำไมถึงฟรี ก็เพราะว่า ทางโบรกเกอร์ต้องการให้คุณเรียนรู้จากภายในและภายนอกของโปรแกรมการเทรดของพวกเขาและถ้าเป็นเวลาอันดีและไม่มีความเสี่ยง และเมื่อคุณตกหลุมรักกับโปรแกรมเทรดและระบบของเขา คุณก็ลงทุนด้วยเงินจริง บัญชีเงินปลอมนี้สามารถทำให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และสามารถทดสอบความสามารถและทักษะในการเทรดของคุณโดยไม่มีความเสี่ยง
“คุณควรที่จะเทรดบัญชีเงินปลอมก่อนอย่างน้อยหกเดือนก่อนที่คุณคิดอย่างระเอียดรอบคอบว่าจะใส่เงินจริงของคุณลงไป”
ปฏิญาณกับตัวเองไว้เลยว่า “ห้ามเสียเงินเงินของฉันเด็ดขาด”
วางมือบนหัวใจของคุณแล้วพูดว่า…
“ฉันจะเทรดบัญชีเงินปลอมอย่างน้อยหกเดือนก่อนที่ฉันจะเทรดเงินจริง”
แล้วก็เอานิ้วชี้ไปแตะที่หัวของคุณแล้วพูดว่า …
“ฉันคือสมาร์ทเทรดเดอร์และเป็นเทรดเดอร์ที่มีความอดทนสูง”
สุดท้ายบอกกับตัวเองไว้เลยว่า
“ฉัน คือ เทรดเดอร์ ผู้ยิ่งใหญ่”
ข้อมูลเบื้องต้นของการเทรด Forex
Tuesday, 07 September, 2010 3:05 PM
ข้อมูลเบื้องต้นของการเทรด Forex

What’s forex ?
Forex คืออะไร เป็นคำถามแรกสำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้น
Forex Exchange Market หรือทีเรียกกันว่าตลาด Forex บางทีก็เรียกว่า Spot market ,Retail forex หรือเรียกสั้นๆ ว่า fx หรือแม้แต่ spot ซึ่งก็เป็นความหมายเดียวของคำว่า Forex ฟอเร็ก เป็นตลาดทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก(เค้าว่ากันอย่างนั้น) มีมูลค่าการซื้อ-ขาย 4 ล้านๆ ดอลล่าร์ต่อวัน ซึ่งถ้าคุณเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นในนิวยอร์ค(Newyork Stock Exchange)ที่มีมูลค่าเพียง สองหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์ต่อวัน แล้วคุณจะรู้ว่าตลาดฟอเร็กใหญ่โตมากและมีมูลค่ามากแค่ไหน ในความเป็นจริงแล้วตลาดฟอเร็กจะเท่ากับหรือมากกว่าสามเท่าของตลาดหุ้นและ ตลาดล่วงหน้ารวมกัน
what is trade on Foreign Exchange Market ?
คุณจะเทรดอะไรในตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตรา (forex)
สิ่ง ที่คุณเทรดก็คือ การเทรด Forex ก็คือ การซื้อค่าเงินหนึ่งๆ ในขณะเดียวกันก็ขายอีกค่าเงินหนึ่ง เทรดกับโบรกเกอร์ หรือ Dealer และเทรดเป็นคู่เงิน ตัวอย่างเช่น เงิน ยูโร และ ดอลล่าร์สหรัฐ (EUR/USD) หรือค่าเงินปอนกับค่าเงินเยน (GBP/JPY)
ด้วยเหตที่ว่า คุณไม่ได้ซื้อสิ่งของที่จับต้องได้ การเทรดแบบนี้เป็นสิ่งทีสับสนและงวยงง อาจจะดูเหมือนว่าคุณต้องซื้อสุกลเงินซึ่งก็เหมือนกับว่าคุณซื้อหุ้นในประเทศ นั้นๆ เมื่อคุณซื้อค่าเงินเยนของญี่ปุ่น มันก็จะส่งผลในหุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยราคาของค่าเงินนั้นเป็นผลสะท้อนกลับของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปัจจุบัน
“โดย ทั่วไปแล้ว อัตราการแลกเปลี่ยนของสกุลเงินเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ขึ้นอยู่กับผลสะท้อนของปัจจัยของเศรษฐกิจประเทศหนึ่งๆเทียบกับปัจจัยทาง เศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ”
แตกต่างกับตลาดการเงินอื่นๆที่เหมือนกับ ตลาดหุ้นในนิวยอร์ค ตลาด Forex ไม่มีสถานที่ตั้งหรือศูนย์กลางใดๆ ตลาดฟอเร็กถูกจัดให้อยู่ในรูปแบบของ ตลาด Over-The-Counter หรือ “Interbank “ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วตลาด Forex ถูกให้เคลื่อนตัวโดยการสื่อสารทางอิเลคโทรนิคทั้งหมดอยู่ในภายในเครือข่าย ของธนาคารซึ่งเคลื่อนตัวตลอด 24 ชั่วโมง
ก่อนปี ค.ศ. 1990 จะมีแต่รายใหญ่เท่านั้น ที่สามารถเล่นเกมส์นี้ได้ คุณต้องมีเงินถึงห้าสิบล้านคุณจึงจะสามารถเทรดได้ Forex was originally intended to be used by bankers and large institutions - and not by us "little guys". โดยแรกเริ่มนั้นฟอเร็กซ์จะเล่นได้แต่ นายธนาคาร หรือ สถาบันการเงินใหญ่ๆเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่พวกเรา แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตที่ Internet ได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว การเทรดฟอเร็กผ่านทางระบบออนไลน์ก็สามารถใช้ได้และได้ถูกเสนอให้เทรดแบบ บัญชีรายย่อยเหมือนพวกเรานั่นเอง
สิ่งที่จำเป็นการเทรด Forex เพียงแค่คุณมีเครื่องคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนตที่สามารถเชื่อมต่อได้ และศึกษาข้อมูลจากบล๊อคของเรา
Thaiforexschool ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อแนะนำมุมมองที่สำคัญในตลาด Forex สำหรับมือใหม่ ให้มีความสุขกับการเรียนรู้ข้อมูลทาง Forex ที่เข้าใจง่ายใน บล๊อคของเรา
What ‘s spot market ?
Spot Market คืออะไร
Spote Market ก็คือตลาดที่ทำธุรกรรมการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตามราคาปัจจุบัน Forex จัดอยู่ในประเภท spot market เพราะใช้ค่าของตัวเงินในการเทรดนั่นคือเงิน ต่างจาก Future Market ที่เราได้ยินกันในประเภทซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยี่สื่อสารที่ทันสมัย ทำให้ Spote Market ได้รับความนิยิม เหนือ Futrue Market แบบ ขาดลอย เพราะผู้เทรดใน Future Market จำต้องพิจารณาควบถึงอุปสงค์ของสินค้าเกษตร รวมทั้งแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตด้วย ซึ่งนับวันจะได้รับความนิยมน้อยลง การทำการซื้อขาย Forex ผู้เทรดคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่งคง มั่งคั่งของประเทศที่เลือกเทรดและประเทศคู่ค้า จะเห็นว่าการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า Future Market ก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยนี้เช่นกัน และอีกยังคำนึงถึงปัจจัยนี้เช่นกัน และอีกยังต้องคำนึงถึงอุปสงค์ของสินค้านั้น ๆ อีกด้วย การวิเคราะห์แนวโน้มราคาของสินค้าเกษตรจึงดูเหมือนกับไม่ใช่เป็นของหมู ๆ เลย Future Market จำถูกจำกัดอยู่เฉพราะในวงการพ่อค้าคนกลางของสินค้านั้น ๆ

Which Currency are trade?
เทรดสกุลเงินไหน
สกุลเงินที่ใช้เทรดโดยส่วนมากอยู่ในตารางด้านล่างนี้
สัญลักษณ์ ประเทศ สกุลเงิน ชื่อเรียก
USD United Stated Dollar Buck
EUR EURO Member Euro Fiber
JPY Japan Yen Yen
GBP England Pound Cable
CHF Swizzerland Franc Swissy
CAD Canada Dollar Loonie
AUD Australia Dollar Aussie
NZD New Zealand Dollar Kiwi

โดยปกติสัญลักษณ์ของค่าเงินจะมีสามตัวอักษรเสมอ โดยสองตัวแรกจะเป็นชื่อเป็นเทศและตัวหลังจะเป็นสกุลเงินของประเทศนั้นๆ

When can currency be trade ?
-คุณสามารถเทรดสกุลเงินได้ตอนไหน
ตลาด ฟอเร็กไม่เหมือนตลาดอื่นทั่วไปในโลก มันเปรียบเสมือนซุปเปอร์มาเก็ตที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทุกแห่งของศูนย์กลางทางการเงินทั่วโลกเปิดเพื่อทำธุรกิจ ทั้งธนาคารและสถาบันแลกเปลี่ยนการเงินใหญ่ๆก็เปิดอยู่ตลอดเพื่อให้บริการ ทุกๆชั่วโมง หยุดแค่สุดสัปดาห์เท่านั้น
ตลาดฟอเร็กซ์หมุนตามพระ อาทิตย์ที่อยู่รอบโลก คุณสามารถเทรดได้ทั้งคืน(เปรียบเสมือนคุณเป็นแวมไพร์) และสามารถเทรดได้ทั้งวัน(เปรียบเสมือนคุณเป็นนก) แต่คุณควรตระหนักไว้เลยว่า คุณไม่จำเป็นต้องเทรดในตลาดนี้ก็ได้ - แต่คุณอาจจะรอจังหวะเพื่อเทรดในตลาดที่ใหญกว่า –หรือ คุณอาจจะโดนหลอกล่อ แล้วโดนกินเลยก็ได้
ช่วงเวลาการเปิดของตลาดการเงินโลก
Time Zone New York GMT Thai
Tokyo Open 7.0 pm 0.00 เจ็ดโมงเช้า
Tokyo Close 4.0am 9.00 บ่ายสามโมง
London Open 3.0 am 8.00 บ่ายสองโมง
London Close 12.0pm 17.00 เที่ยงคืน
NewYork Open 8.0am 13.00 สองทุ่ม
Newyork Close 5.0pm 22.00 ตีห้า

The Forex Market (OTC)
ตลาด Forex(OTC) over the counter
Forex OTC ว่าไปแล้วเป็นตลาดเทรดเงิน ที่ใหญ่และเป็นที่ยอดนิยมที่สุดในโลก !!!
ทำการเทรดโดยบุคคลและองค์กรต่างๆทั่วโลกในตลาดหน้าเค้าเตอร์ (OTC) สมาชิกผู้เทรดตัดสินใจว่าจะเทรดสกุลเงินไหน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความน่าเชื่อถือของราคา และประวัติของสุกลเงินนั้นต่ออีกสกุลเงินหนึ่ง
แผนผังแสดงค่านิยมของผู้เทรดต่อสกุลเงินแสดงว่าเงินดอลล่าร์เป็นเจ้าศูนย์ กลางแห่งการเทรดของบรรดานักเทรดทั่วโลกถึง 89%ของการเทรดทั้งหมด ยูโรมาเป็นที่สอง และญี่ปุ่นมาเป็นที่สาม


Credit:http://thaiforexschool.blogspot.com/feeds/posts/default